หน้าหนาวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ในเดือนธันวาคมอากาศที่เชียงใหม่เย็นจับจิต การหาสถานที่ท่องเที่ยวน่าจะเป็นอะไรที่ดีและมีความสุข โดยเฉพาะ การได้สัมผัสดอกไม้สวยๆ บรรยากาศเย็นชื่น มันจะต้องบรรเจิดแน่เชียว เพราะผู้หญิงกับดอกไม้เป็นของคู่กันอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อได้ไปอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ ความสุขก็จะท่วมท้นทั้งกายและใจ…ฉันเองก็เฉกเช่นผู้หญิงทั่วไปที่สรรหาความสวยงาม เพื่อให้ตัวเองมีความสุข พอฉันเห็นเพื่อนโพสต์รูปบนเฟซบุ๊ก โอ้โห ทุ่งดอกไม้สีม่วง มันช่างตื่นตาตื่นใจน่าไปเยี่ยมไปยลมากๆ แล้วฉันก็เริ่มปฏิบัติการสืบเสาะหาที่มาที่ไปของทุ่งดอกไม้สีม่วง เริ่มจากถามไถ่คุณเพื่อนผู้ไปมาแล้วพร้อมกันนั้นก็หาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติม ถามๆ และ ค้นๆ
ในที่สุด ฉันก็ได้ข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับสถานที่ของทุ่งนั้นแถมยังได้ความรู้เกี่ยวกับดอกไม้สีม่วงด้วยว่า ดอกไม้นั้นชื่อ ‘ดอกมากาเร็ต’ เป็นสัญลักษณ์ของ ‘รักแท้’ มาถึงจุดนี้ ความอยากไปโพยพุ่งหนักกว่าเก่า สมองวางแพลนและบอกกล่าวผู้จะร่วมเดินทางไปหาความรักแท้ด้วยกันทันที
การเดินทางไปทุ่งดอกมากาเร็ตสำหรับฉันจำเป็นจะต้องใช้จีพีเอส เพราะตามข้อมูลที่หามามันไปได้หลายเส้นทาง ซึ่งฉันเลือกใช้เส้นทางที่ไม่ไกลจากบ้านนักแถวๆ มหาวิทยาลัยแม่โจ้เชียงใหม่ แล้วปรากฏว่า เมื่อออกเดินทางจริงๆ เส้นทางที่ฉันใช้ มันกลับเป็นซอยเล็กซอยน้อยดูวกวน ตอนแรกเกือบจะถอดใจ แต่ฉันยังทนดั้นด้นไปต่อและก็ถึงจุดหมาย โดยละแวกนั้นมีทุ่งดอกไม้หลายต่อหลายแห่ง ฉันไม่รู้จะเลือกอันไหนดีเลยตัดสินใจเลือกที่แรกที่เห็นที่ดูสะดวกที่สุด
ทุ่งดอกมากาเร็ต ‘สุรชัยฟาร์ม’ คือที่ที่ฉันเลือกจอดรถและลงไปติดต่อ ซึ่งจากการสอบถาม ฉันได้ข้อมูลมาว่า ที่นี่เป็นทุ่งดอกไม้ที่ไม่ต้องมีการจองล่วงหน้า แค่ชำระค่าเข้าคนละ 50 บาท เท่านี้ก็สามารถเข้าไปสัมผัสความงามได้แล้ว นอกจากนั้นยังสามารถใช้คูปองใบเดิม เพื่อนำไปเข้าทุ่งดอกไม้อีกแห่งที่เป็นเจ้าของเดียวกันได้อีกด้วย
ว่าแล้วก็ถึงเวลาชำระหนี้ตามกฎหมาย จ่ายไป เพื่อความสวยความสุขกับทุ่งดอกรักแท้สีโปรด ความรื่นรมย์เริ่มขึ้น ที่ เพิงสำหรับเจ้าหน้าที่ของฟาร์ม ซึ่งมีดอกไม้ประดับตกแต่งมากมาย ทั้งยังมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับให้นักท่องเที่ยวนั่งและมีเครื่องดื่มกับขนมขบเคี้ยวไว้ต้อนรับ แล้วก็มีอุปกรณ์ประกอบการถ่ายรูปหลายสิ่งอัน สามารถหยิบไปใช้ได้ แต่ต้องดูแลให้ดี ใช้เสร็จแล้วก็นำมาเก็บไว้ที่เดิม อย่าหยิบติดมือไปเป็นอันขาด
พวกเราคิดกันแล้วว่า เราจะยังไม่นั่งพักดื่มน้ำหวานและทานขนม เราจะไปสำราญกับดอกไม้ให้หนำใจก่อน แล้วค่อยมานั่งพักให้หายเหนื่อยได้มาทั้งทีต้องจัดให้คุ้มอย่าให้เสียของ
และแล้ว การเดินเข้าไปในทุ่งดอกไม้สีม่วงก็บังเกิด ถึงแม้แสงแดดยามบ่ายจะจัดจ้า แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสวยงามที่ผสมความเบิกบานลดน้อยถอยลงไปเลย ฉันเดินเอามือละดอกไม้ไปเรื่อยๆ คนที่มาด้วยก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เช่นกัน ฉันรู้ตัวว่า ฉันกำลังเพลิดเพลินเดินแบบทอดน่อง ตามองดอกไม้สีม่วงดอกแล้วดอกเล่า เข้าล็อกนั้นไปล็อกนี้ จนเดินไปถึงจุดที่ทางฟาร์มฯ จัดไว้สำหรับถ่ายรูป มีโต๊ะเก้าอี้ไม้ มีม้านั่งไม้ มีดอกไม้ มีร่มไม้ แล้วฉันก็จัดการหยิบอุปกรณ์ประกอบที่เอาติดมือมาและกางใช้ผสมโรง
เมื่อช่างภาพพร้อม นางแบบก็พร้อม แบล็คกราวก็พร้อม แล้วจะรออะไรจ๊ะ แอ็คท่ารัวๆ กดชัดเตอร์รัวๆ ความสุขมันอยู่ตรงนี้นี่เอง ตรงที่มีคนรู้ใจกับบรรยากาศชื่นใจ จากนั้น เราก็กลับไปนั่งที่เพิงและดื่มน้ำหวานทานขนมกันจนอิ่มแปล้ เสร็จสรรพก็บอกลาทุ่งดอกมากาเร็ตสีม่วงและออกเดินทางไปที่ทุ่งดอกไม้อีกแห่ง ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที
แต่นแตนแต๊น…มาถึงแล้วจ้า ดอกไม้ดอกไม้เบ่งบาน…ทุ่งดอกมากาเร็ตสีขาว…ตะกี้เป็นทุ่งสีม่วง คราวนี้เป็นทุ่งสีขาวทั้งแถบแซมเหลืองแซมเขียว สวย สะอาดตาที่สุด ไม่รอช้าแล้ว ลงไปลุยความงามกันเลย
ความบันเทิงเริ่มขึ้นท่ามกลางมวลดอกไม้ รอยยิ้มฉายแข่งกับแสงตะวันจ้าอีกครั้ง ลมเอื่อยๆ พัดโบกไปมา ความสุขอบอวลจริงๆ ฉันไม่คิดเลย คำว่า..สวรรค์บนดิน..แท้จริงแล้ว มันก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมนี่เอง ฉันเก็บความรื่นรมย์และความประทับใจไว้ในภาพถ่ายเกือบจะสองร้อยภาพ ทุกภาพเต็มอิ่มสุขสันต์ภายในเวลาสองสามชั่วโมง ต่อไปเมื่อดูภาพเหล่านี้ ฉันจะก็ได้รับความสุขไปด้วยเสมอๆ
บางทีความสุข มันก็ไม่จำเป็นจะต้องมีราคาแสนแพงเลย เพียง 50 บาทที่ต้องจ่ายช่างสุดจะคุ้มค่าเกินคุ้ม อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสเหมือนๆ กันจัง ทุ่งดอกไม้ในเชียงใหม่ยังมีหลายแห่งนะ ทุกแห่งคงจะมีจุดขายต่างกัน แล้วในแต่ละฤดูอาจจะมีดอกไม้สวยงามแปลกใหม่หมุนเวียนเปลี่ยนให้ผู้คนไปชมความงามเท่าที่ได้ฉันเห็นในเฟชบุ๊กแฟนเพจของ‘สุรชัยฟาร์ม’ ช่วงนี้จะเป็นทุ่งดอกมากาเร็ตสีรุ้งเห็นแล้วละลานตามากๆ ถ้าเป็นไปได้ฉันจะหาเวลาไปอีกและก็จะลองตระเวนไปเยือนทุ่งดอกไม้เจ้าอื่นๆ ด้วย เพื่อเก็บเกี่ยวความสวยงามกับความสุข เท่าที่คนหนึ่งคนจะพึงทำได้ คุณล่ะ สนใจไหม? ถามใจตัวเองดู…